เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ชาวเยอรมัน ต้องเตรียมความพร้อมให้ดีที่สุดในแมตช์รับมือ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่สนามแอนฟิลด์
ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันพุธที่ 1 มีนาคมนี้ โดยพวกเขาต้องการสามคะแนนอย่างมือเพื่อเพิ่มโอกาสในการลุ้นทำอันดับติดท็อปโฟร์ โดยข่าวดีก็คือแข้งสำคัญอย่าง อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ หลุยส์ นูนเญซ น่าจะฟิตลงสนามในแมตช์นี้ได้ ยิ่งไปกว่าการคว้าชัยชนะจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญก่อนที่จะทำศึก “แดงเดือด” ปะทะ แมนฯ ยูไนเต็ด ช่วงสุดสัปดาห์นี้
- ขยันเจอกันจริงๆ ฤดูกาลนี้
ลิเวอร์พูล ดูเหมือนว่าจะต้องปะทะกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน จนเบื่อกันไปเลยในฤดูกาลนี้ เพราะพวกเขาจะต้องพบกันอีกครั้งเป็นแมตช์ที่ 4 ซึ่งงานนี้สาวก “เดอะ ค็อป” อยากเห็นทีมรักแก้แค้น “หมาป่า” ให้ได้ในถิ่นแอนฟิลด์
ก่อนหน้านี้ “หงส์แดง” พบกับ วูล์ฟส์ มาแล้วสามเกมนับตั้งแต่วันที่ 7 มกราคมปีนี้ เริ่มจากการพบกันในศึกเอฟเอ คัพ รอบ 3 ซึ่งหาผู้ชนะไม่ได้ก็เลยต้องมาเจอกันอีกครั้งในการรีแมตช์ (ลิเวอร์พูล ชนะ) ตามด้วยเกมพรีเมียร์ลีก ซึ่ง ลิเวอร์พูล โดนยำเละเทะ 3-0 ที่โมลินิกซ์ กราวนด์ ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์

สำหรับแมตช์นี้ตอนแรกจะต้องแข่งกันในวันเสาร์ที่ 10 กันยายนแต่ต้องเลื่อนจากการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และแม้ทั้งสองทีมจะเจอกันสามครั้งก็ตาม แต่สำหรับเจ้าบ้านคงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาชนะได้
เหตุผลก็เพราะฟอร์มที่ยังลุ่มๆ ดอนๆ ของ ลิเวอร์พูล อาจจะเป็นตัวแปรสำคัญ ฉะนั้นหากต้องการคว้าสามคะแนน คล็อปป์ ต้องเต้นย้ำลูกทีมให้สู้อย่างเต็มที่ และมีสมาธิตลอดจนกระทั่งจบเกม
- ต้องชนะเพื่อลุ้นท็อปโฟร์
แน่นอนว่าเกมนี้เป็นหนึ่งในแมตช์ที่อยู่ในมือของ ลิเวอร์พูล (แข่งน้อยกว่า สเปอร์ส 2 เกม) และถ้าหากคว้าชัยชนะได้ ก็จะเป็นการเพิ่มความหวังในการลุ้นทำอันดับติดท็อปโฟร์
ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับ “หงส์แดง” ที่ทำได้เพียงแค่เสมอกับ คริสตัล พาเลซ แบบไร้สกอร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้มีแค่ 36 คะแนนตามหลัง “ไก่เดือยทอง” ถึง 9 แต้มแต่ยังโชคดีที่แข่งน้อยกว่า 2 แมตช์
ฉะนั้นหาก คล็อปป์ แอนด์ โค. สามารถคว้าสามแต้มในแมตช์นี้ได้จะทำให้พวกเขามี 36 คะแนนเท่ากับ ฟูแล่ม แต่ประตูได้เสียดีกว่า พร้อมทั้งลดช่องว่างจาก สเปอร์ส ทีมอันดับ 4 เหลือแค่ 6 คะแนนเท่านั้น และยังเหลือเกมในมืออีกแมตช์ด้วย
แน่นอนว่าชัยชนะในเกมกับ วูล์ฟส์ เป็นสิ่งที่มีความหมายอย่างยิ่ง เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการลุ้นคว้าโควต้าไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ถ้าหากทำไม่ได้งานนี้คงเลิกหวังท็อปโฟร์ได้เลย
- โกนาเต้ กับ นูนเญซ เตรียมคืนสนาม
หนึ่งในข่าวดีสำหรับ คล็อปป์ และแฟนบอลลิเวอร์พูลก็คือนักเตะตัวหลักของทีมค่อยๆ ทะยอยหายเจ็บกลับมาช่วยทีม ล่าสุด อิบราฮิม่า โกนาเต้ และ ดาร์วิน นูนเญซ สามารถเรียกความฟิตพร้อมสำหรับเกมรับมือ “หมาป่า” แล้ว
ช่วงที่ผ่านมาแนวรับของ “เดอะ เร้ดส์” ย่ำแย่สุดๆ เพราะ โฌเอล มาติป กับ โจ โกเมซ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้เหมาะสมแถมยังผลัดกันทำผิดพลาดจนทำโดนลงโทษหลายครั้งหลายหน
อย่างไรก็ตามตอนนี้ “หงส์แดง” เริ่มมีกองหลังที่เข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น เพราะ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ฟิตกลับมาแล้ว และตอนนี้ โกนาเต้ ก็ลงฝึกซ้อมได้แล้ว ฉะนั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่ คล็อปป์ จะจับทั้งสองคนยืนคู่กันในเกมนี้
ส่วน นูนเญซ ก็กลับมาซ้อมได้อย่างเต็มที่เช่นกัน และแน่นอนว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะได้กลับมาประสานงานร่วมกับ โคดี้ กัคโป และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยมี โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ดีโอโก้ โชต้า เป็นตัวสนับสนุน
อีกเรื่องที่ถือว่าเป็นข่าวดีเช่นกันนั่นก็คือ หลุยส์ ดิอาซ ที่ตอนนี้อาการบาดเจ็บดีวันดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถลงซ้อมได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ ติอาโก้ อัลกันทาร่า ยังไม่สามารถช่วยทีมได้
- ซาลาห์ ลุ้นทำสถิติเทียบเท่า “เดอะ ก็อด”
แมตช์ที่ผ่านมา “บังโม” ไม่สามารถส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายในแมตช์พบ พาเลซ แต่สำหรับเกมนี้เขาคงจะมีความมุ่งมั่นที่จะยิงประตูให้ได้ เพราะ วูล์ฟส์ ถือเป็นทีมที่ถูกโฉลกกับเจ้าตัวเลยทีเดียว
ซาลาห์ ยิงประตูในบ้านเกมลีก 2 แมตช์หลังสุดที่พบกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน นอกจากนี้ถ้าหากเขาสามารถตะบันได้ 2 ประตู นั่นหมายความว่าเจ้าตัวจะทำสถิติเทียบเท่ากับ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ที่ยิงได้ 128 ประตูในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้กับ “หงส์แดง”
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ ลิเวอร์พูล สามารถเก็บคลีนชีตได้ 4 จาก 5 เกมหลังสุดในลีก และยังมีลุ้นที่จะไม่เสียประตู 4 เกมติดต่อกันเป็นครั้งแรกในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2022 (คลีนชีต 5 เกมติดต่อกัน)
ขณะเดียวกัน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางกัปตันทีมลิเวอร์พูล จะลงสนามเป็นตัวจริงครบ 400 เกมจากการเล่นในทุกรายการให้กับ “เดอะ เร้ดส์” ในแมตช์วันพุธนี้ด้วย
- สร้างความฮึกเหิมก่อน “แดงเดือด”
เกมนี้บรรดาขุนพล “หงส์แดง” ต้องพยายามดึงศึกยภาพที่แท้จริงของพวกเขาออกมาให้ได้ เพราะในแมตช์ต่อไปถือเป็นเกมแห่งศักดิ์เพราะต้องรับมือ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงสุดสัปดาห์นี้
ทีมของกุนซือเอริค เทน ฮาก กำลังเต็มไปด้วยความคึกสุดๆ เพราะเพิ่งจะผงาดคว้าแชมป์คาราบาว คัพ มาได้แบบสดๆ ร้อนๆ และพวกเขายังมีลุ้นที่จะได้อีกสามแชมป์ในฤดูกาลนี้ (พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และ ยูโรปา ลีก)
ยิ่งไปกว่านั้นบรรดาแข้ง “ผีแดง” คงเต็มไปด้วยความกระหายที่อยากจะฉีกเจ้าบ้านเป็นชิ้นๆ เพราะพวกเขายังคงแค้นใจจากการโดน ลิเวอร์พูล ถล่มเละเทะในลีกเหย้า-เยือน 9-0 แถมนี่เป็นโอกาสทองที่จะทำได้ซะด้วย เนื่องจากฟอร์มของคู่อริตลอดกาลอยู่ในช่วงขาลงสุดขีด
ฉะนั้น คล็อปป์ ต้องกระตุ้นลูกทีมให้ระเบิดฟอร์มเก่งออกมา เพราะนี่จะเป็นเหมือนยากระตุ้นชั้นดีก่อนที่จะทำศึก “แดงเดือด” และแน่นอนว่าพวกเขาอยากจะปราบ แมนฯ ยูฯ เพื่อหยุดความฝันที่จะคว้า 4 แชมป์ในซีซั่นนี้ !!
ข่าวแนะนำ : “เทน ฮาก” สั่งการ แมนยูฯ ลิสต์ชื่อเตรียมคว้า 3 ดาวยิงฟอร์มร้อนแรง